01.ฤกษ์อัศวินี บุคคลที่เกิดในฤกษ์นี้ ได้แก่ เขสปกุมาร บุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ผู้มีทรัพย์มากมายครั้นบิดาถึงแก่กรรม ทรัพย์นั้นก็ตกเป็นมรดกแก่เขสปกุมาร แต่เขสปกุมารไม่สามารถรักษาทรัพย์มรดกนั้นไว้ได้ เที่ยวแจกจ่ายคนยากจน ขอทานกิน ฉะนั้นฤกษ์นี้ บิดามารดาทิ้งมรดกไว้เท่าใด ก็ไม่อาจรักษาทรัพย์นั้นไว้ได้
02.ฤกษ์ภรณี ได้แก่ โฆสกกุมาร ผู้โชคดีได้สมบัติของเศรษฐีแปดร้อยโกฏิมาครอบครอง คนเกิดในฤกษ์นี้ แม้กำเนิดในตระกูลที่เข็ญใจ ก็จะได้ซึ่งสุขสมบัติอันมงคลยิ่ง
03.ฤกษ์กฤติกา ได้แก่ หิงสะกุมาร 2 พี่น้องถือกำเนิดมาในตระกูลเศรษฐี บิดามารดาอบรมสั่งสอนอย่างใดก็หาประพฤติตามไม่ บิดามารดาจึงขับออกจากบ้านไป 2 พี่น้องเมื่อถูกขับออกจากบ้านก็มาเป็นโจร มาวันหนึ่งถูกชาวบ้านจับได้ จึงนำตัวไปถวายพระเจ้ากรุงพาราณสี พระเจ้ากรุงพาราณสีมีจิตเอ็นดูสงสารจึงรับเลี้ยงไว้ โดยแต่ตั้งให้เป็นขุนพล แต่ทั้ง 2 กลับเนรคุณยกพลเข้าปล้นสมบัติพระเจ้ากรุงพาราณสี แต่ถูกพระเจ้ากรุงพาราณสีจับได้เสียก่อนแล้วนำ หิงสะกุมารทั้ง 2 ไปประหารเสีย ผู้เกิดในฤกษ์นี้ มักเป็นโจร
04.ฤกษ์โรหิณี ฤกษ์นี้จะได้ดีที่ต่างแดน ท่านจะบูชาลาภจตุบาทโคกระบือ นิทานมีอยู่ว่า อ้าย-ยี่ 2 พี่น้องผู้กำพร้า หาญาติและทรัพย์มิได้ มีอาชีพหาฟืนขาย ยี่ผู้น้องจึงชวนอ้ายพี่ชาย ไปเป็นข้ารับใช้ทำราชการกับท้าวพระยาเห็นจะเป็นการดีกว่า อ้ายผู้พี่จึงแสดงความคิดเห็นว่า การที่จะไปรับราชการกับท้าวพระยานั้น ท้าวพระยานั้นท่านคงไม่รับ ท่านจะรับเฉพาะคนที่มีวิชาความรู้ ซึ่งอ้ายและยี่พี่น้องหาได้มีวิชาความรู้ไม่ ทั้ง 2 จึงตกลงพากันไปร่ำเรียนศึกษาหาวิชาความรู้เพื่อรับราชการ โดยไปร่ำเรียนมนตร์กำบังหายตัว แล้วเอาวิชาไปใช้ย่องขึ้นบ้านผู้อื่น แต่ถูกจับได้เจ้าของบ้านฟันอ้ายผู้พี่ตาย ทรัพย์ที่ได้มานั้นจึงตกอยู่กับยี่ผู้น้อง และในค่ำคืนวันหนึ่งท้าวพระยาได้ออกเที่ยวนอกราชวัง ได้พบกับยี่ ที่ศาลา ท้าวพระยาสอบถามจนรู้ว่ายี่มีวิชาดีจึงชักชวนมาเป็นสหาย แล้วแต่งตั้งให้เป็นเอกอำมาตย์ ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ ถ้าเป้นชายจะได้เป็นมนตรี ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นนางพระยา
05.ฤกษ์มฤคศิร ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้มักจะ ทุกข์ๆ สุขๆ คละเคล้ากัน จะต้องภัยศัตรูจะปองร้าย ให้ไปต่างประเทศจึงจะเป็นเจ้าแห่งสมบัติ ได้แก่ ราชกุมารซึ่งถูกประชาชนเนรเทศจากบ้านเกิดเมืองนอน แล้วโดยสารสำเภาไปยังนานาประเทศ ครั้นวันหนึ่งนายสำเภาถึงแก่ความตายลง เหล่าพ่อค้าวาณิชทั้งหลายจึงยกราชกุมารขึ้นเป็นนายสำเภาแทน
06.ฤกษ์อารทรา จะมีความสุขเพราะโชคลาภ อันได้แก่นางศรีสมุทร์ภรรยานายสำเภา ต้องมาตกยากเข็ญใจช้อนปลาขาย วันหนึ่งเห็นชายผู้หนึ่งแบกฟืนมา ซึ่งล้วนเป็นท่อนจันทร์เนื้อดี จึงตรงเข้าไปถามชายตัดฟืนว่าฟืนเช่นนี้มีมากไหม ชายตัดฟืนก็ตอบกลับว่ามีมากอยู่ นางจึงให้ชายตัดฟืนนำฟืนทั้งหมดมาแล้วรับซื้อไว้ทั้งหมด และ นำไปจำหน่าย นางและนายสำเภาจึงได้กำไรจากการขายไม้จันทร์เป็นอันมากจนสามารถซื้อสำเภาและร่ำรวยได้เหมือนเก่า ผู้ใดกำเนิดมาในฤกษ์นี้ ถ้าเป็นชายท่านขอให้ลูกสาว ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นแม่ศรีเรือนผู้มีทรัพย์มาก
07.ฤกษ์ปุนัพสุ มักเกิดโรคา จะตายด้วยโรคเบียน แต่จะเกิดโชคลาภช้าง ฤกษ์นี้ได้แก่บุรุษผู้หนึ่ง อาชีพเป็นเพชฌฆาตสังหารคนโลหิตมิได้แห้ง ผู้ใดเกิดในฤกษ์นี้จะมีจิตใจกล้าแข็งดั่งเพชฌฆาต จะได้เป็นทหารท้าวพระยา
08.ฤกษ์ปุษย ได้แก่ปุทลักษณ์ วันหนึ่ง นางอักขมุขี ไปได้พระยา อนึ่งได้แก่นางมัลลิกาลูกของไพร่ผู้ดูแลสวนดอกไม้ วันหนึ่งได้ตกไปเป็นชายาท้าวโกศลราช ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้จะมีชัยชนะมีความกล้าหาญ ท้าวพระยาบูชา ช้างม้าโภคทรัพย์ดี แต่มักเกิดโรคภัยเบียดเบียน แม้กำเนิดในตระกูลต่ำเข็ญใจก็จะได้เป็นใหญ่ในภายหน้า ถ้าอยู่ในกำเนิดตระกูลดีแล้ว เปรียบดั่ง ลูกท้าวพระยา วันดีคืนดีมีท้าวพระยาเมืองอื่น เอาเมืองมายกให้ให้ 101 เมือง สรุปกำเนิดในชั้นวรรณะไหนย่อมเจริญกว่าวรรณะเดิมที่กำเนิด
09.ฤกษ์อสิเลส ได้แก้พระโมคคัลลานะ ผู้ทรงฤทธานุภาพเจ้าประกอบด้วยวิชา ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ จะได้ดีในทางศาสนาจะได้เป็นสังฆปรินายกดำรงพระศาสนา หรือไม่ก็จะได้เป็นผู้ทรงศีล ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะได้เป็นเสมียนนักการ หรือ หมอโหราถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นภรรยาผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง แม้ถ่อยสุดก็จะได้เป็นหญิงผู้มีวิชาดี ผู้กำเนิดในฤกษ์นี้มักมีภัย มีทุกข์ด้วยท้าวพระยา จะฉิบหายเพราะโทษประทุษร้ายจากเสนาบดี
10.ฤกษ์มาฆะ ได้แก่เศรษฐีในเมืองพาราณสี บิดามารดาให้ทรัพย์อย่างมากมาย แต่หารักษาทรัพย์นั้นไม่อยู่พาทรัพย์ฉิบหาย เมื่อหมดทรัพย์สมบัติก็หันไปยึดอาชีพโจรลักทรัพย์ในคลังท้าวพระยา ถูกจับได้และถูกประหารเสีย ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ จะสุขบ้างทุกข์บ้าง ท้าวพระยาจะให้คุณ ญาติพี่น้องจะประเสริฐอุดม แต่ทว่าครองทรัพย์นั้นมิได้แม้จะขวนขวายเท่าใดก็ตาม
11.ฤกษ์ปุพพผัคคุนี ฤกษ์นี้ได้แก่กุมารผู้หนึ่งซึ่งไร้ทรัพย์ไร้ญาติ กำพร้าเมื่ออายุ 16 ชันษา โดยไปอาศัยพึ่งอยู่กับนายสำเภา นายสำเภาเห็นใจให้เงินมาก้อนหนึ่งเพื่อไปทำทุนค้าขาย กุมารก็ตั้งใจค้าขายได้กำไรจนเป็นเศรษฐีมีทรัพย์สินมหาศาล จนเป็นที่ปรากฏไปถึงหูท้าวพระยาๆ จึงประทานนามให้เป็นยมุนามหาเศรษฐี ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ จะมีมีสำเภานาวา ปรารถนาสิ่งใดก็จะมีความมุมานะพยายามจนได้มา ศัตรูก็จะหันมาให้ความนับถือ ทรัพย์ธัญญาหารประกอบทรัพย์สมบัติศฤงคาร แต่มักจะมีโรคภัยคอยเบียดเบียน
12.ฤกษ์อุตรผัคคุนี ฤกษ์นี้ได้แก่พระโพธิสัตว์ซึ่งจุติมาครองเมืองพาราณสี ขณะนั้นมีโจรกำลังเท่าช้างสาร คุมไพร่พลโจร 500 คนเที่ยวปล้นบ้านเรือนทั่วเมืองพาราณสี อันเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในเมืองยิ่ง ความทราบถึงพระเจ้าพาราณสีๆ ทรงตรัสให้จัดรี้พลเป็นจำนวลมาก ออกจับเอามหาโจรผู้นั้นจนสำเร็จ ผู้ใดกำเนิดมาในฤกษ์นี้มักเป็นโจรต้องขื่อคา
13.ฤกษ์หัตถี เดิมมีโคบาล 2 คน เลี้ยงโคด้วยกัน คนหนึ่งกล่าวว่า ท่านโปรดช่วยดูแลโคให้เราสักหน่อยเถอะเราจะตอบแทนท่านด้วยอาหารห่อแก่ท่านให้จงมาก โคบาลอีกคนจึงรับหน้าที่นั้นไว้และดูและฝูงโคนั้นเป็นอย่างดี แล้วผู้ฝากกลับมาพร้อมเอาข้าวห่อมาให้ ผู้รับติว่าน้อยไปไม่คุ้มค่าเฝ้าต้องการมากกว่านี้ ผู้ฝากไม่ยอมให้ ต่างโต้เถียงกันจนเรื่องมาลงเอยที่ศาล พระยาเห็นว่าโคบาลทั้ง 2 ต่างไม่ยอมความกัน ณ.ที่นั้นมีอยู่ผู้หนึ่งนามว่า กะไสย มาบังคับให้เอาข้าวมาจำนวน 11 ห่อกองไว้ แล้วกะไสย จึงถามผู้รับฝากว่า กองใดมาก ผู้รับฝากตอบว่ากองกลางนั้นมาก กะไสยก็ว่ามากแล้วก็จงเอาไปเถิด คดีความจึงได้ยุติ พระยาเห็นความสามารถของกะไสย จึงตั้งให้เป็นมนตรี อันว่าผู้กำเนิดมาในฤกษ์นี้แม้จะกำเนิดในตระกูลถ่อยก็จะได้เป็น ขุนนางผู้ใหญ่
14.ฤกษ์จิตต ได้แก่พระโพธิสัตว์ กับ ชาย 2 คนๆ หนึ่งชื่อ เทวจิต กับ สารจิต ได้เข้าสนทนาเจรจากับพระโพธิสัตว์แล้วชักชวนกันว่า เราไม่ควรมาอยู่กัน ณ.ที่นี่เพราะเห็นจะไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร จึงตกลงพากันไปยังนครหัสดิน เมื่อไปถึงท้าวพระยาได้พูดคุยไต่ถามสนทนากับพระโพธิสัตว์ๆ ก็ได้ถวยพระธรรมเทศนา ท้าวพระยาชื่นชมพร้อมยกราชธิดาเป็นบูชาพระโพธิสัตว์ ส่วนเทวจิต กับ สารจิต ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอำมาตย์ซ้ายขวา อันผู้ใดกำเนิดมาในฤกษ์นี้จะได้ดั่งนิทานที่ว่าไว้
15.ฤกษ์สาติ มีนารีผู้หนึ่งนามว่า สาไข มีอาชีพเก็บผักขาย มีบุตรีนามว่า ปุษยนารี อายุ 15 ปีไปเป็นคนรับใช้เศรษฐีชื่อ ภัทรา ผู้มีทรัพย์สินมหาศาล นานมาภรรยาเศรษฐีตาย เศรษฐีจึงยกนางปุษยนารีขึ้นเป็นภรรยา จนให้กำเนิดบุตรคนหนึ่ง ครั้นหมดบุญลงทรัพย์สมบัติก็ตกแก่บุตร ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ ถ้าเป้นชายท่านขอลูกสาวให้ ถ้าเป็นหญิงจะเป็นใหญ่ในทรัพย์สินเงินทอง ประกอบด้วยทรัพย์ศฤงคารและข้าคน
16.ฤกษ์วิสาข ตามราชาทึก อันสังหารคนไม่ได้ขาด ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้จะได้เป้นทหารพระยา มิฉะนั้นจะเป็นนายเพชฌฆาต จะเป็นชาวประมง พราน ถ้าเป้นหญิงจะเป็นแพศยาอย่าสงสัย
17.ฤกษ์อนุราช ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้จะได้โภคทรัพย์สมบัติ สตรีจะบูชา ทำการเกี่ยวกับช่างจะดี ถ้าประกอบด้วยพระเคราะห์ที่เป็นมหาอุจ แม้จะเกิดเป็นลูกไพร่ต่ำช้า ก็จะได้กินเมือง ถ้าหญิงพงศ์ขุนจะได้เป็นนางราชกัลยา
18.ฤกษ์เฉฏฐ จะต้องภัยศัตรู จะมีทุกข์ แต่จะมีสมบัติทรัพย์ธัญญาหารมาก ถ้าพระเคราะห์ประกอบด้วยมหาอุจ 5 ตัวจะเป็นผู้มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ แม้บวชก็จะเป็นสังฆราชเป็นใหญ่กว่ากว่าสงฆ์ทั้งปวง ถ้ามีสกุลพราหมณ์จะรู้จบไตรเพท ถ้ามีมหาอุจ 3 ตัว จะเป็นดาบสฤาษี มีมหาอุจ 2 ตัวดุจเดียวกับมหาอุจ 3 ตัว ถ้ามีมหาอุจตัวเดียวถ้าบวชเรียนภายภาคหน้าจะเป็นสัมมาอัครธรรมถึก ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะเป็นเสมียนผู้ใหญ่ เป็นหญิงจะได้เป็นมารดาพระสงฆ์ผู้รู้ธรรมวินัย
19.ฤกษ์มูล ได้แก่นางสุพรรณ บุตรีเศรษฐีในเมืองปาตะลีบุตร มีทรัพย์อันมหาศาล เมื่อบิดาถึงแก่กรรมทรัพย์ทั้งปวงไม่ได้ตกแก่นาง นางนั้นต้องเข็ญใจไร้ทรัพย์ ผู้กำเนิดในฤกษ์นี้มักเป็นคนไร้ทรัพย์ มักต้องช้ำใจ มีโรคภัยมาก ตายด้วยเขี้ยวงาสัตว์ร้าย
20.ฤกษ์ปุพพสาฬห ได้แก่ ศรีวีระ ผู้เข็ญใจแห่งเมืองอินทรปัตถ์ เก็บใบมะขามอ่อนให้มารดานำไปขาย อุตสาหะทำไร่ทำนาทำสวน ได้ข้าว 3 เกวียน เห็นหญ้าอ่อนๆก็นำไปขายให้พ่อค้าเลี้ยงม้าเป็นประจำ พ่อค้าพึงพอใจจึงมอบลูกม้าให้ตัวหนึ่งเป็นอาชานัย แล้วมีเศรษฐีผู้หนึ่งเอาทองมาแลกกับม้า ศรีวีระไม่รับ ความทราบถึงกษัตริย์ให้เอาทอง 1 ล้านมาให้ขอซื้อม้าเพื่อนำไปเป็นราชพาหนะ ศรีวีระจึงขายให้แล้วนำทองที่ได้มาลงทุนค้าขายจนได้กำไรเพิ่มเติมมหาศาล กษัตริย์จึงแต่งตั้งให้เป็นมหาเศรษฐี ผู้ใดกำเนิด มักทำการค้ามีเงินทองมากมาย มีความสุข ได้ลาภจากสตรี ได้ความสุขเพราะสตรี
21.ฤกษ์อุตราสาฬห ได้แก่มหาสุข บุตรีมนตรีเมืองไพศาลี ไปคบเพื่อนที่เป็นโจรแล้วออกปล้นทุกแห่ง มหาสุขกับพวกโจรห้าร้อยถูกจับได้ แล้วนำตัวไปถวายพระยาๆ ให้ประหารโจร เอาแต่มหาสุขไว้ ครั้นพระยาสวรรคต โหราจารย์ทั้งหลายจึงยกให้มหาสุขเป็นกษัตริย์สืบต่อไป ผู้เกิดฤกษ์นี้มักเป็นโจร มีภัยด้วยอาวุธ มักมีโรคร้ายคุกคาม มีโทษ 3 ประการดังนี้ แต่ถ้ามีมหาอุจหนึ่งตัว ต้นแม้จะร้ายแต่ปลายดี
22. ฤกษ์สาวณ มีเมืองหนึ่งชื่อ สุนทคิรีมหานคร มีคราหนึ่งเมืองอินทรปัตถ์แต่ง เต่าทอง ส่งมายังสุนทคิรีมหานคร แต่เต่ามิได้ไข่ ชาวเมืองหมดปัญญาที่จะแก้ปริศนาทำให้เต่ายนต์ อันมีกลปริศนาไข่ได้ถึง 10 ปี ชาวอินทรปัตถ์ต่างเย้ยหยันว่าถ้าไม่สามารถไขปริศนาให้เต่าไข่ได้ ให้มากราบไหว้เจ้ากรุงอินทรปัตถ์ ท้าวสุนทคิรีโกรธกริ้วยิ่ง ให้ตีฆ้องร้องเป่าหาผู้มีปัญญามาแก้กลนี้ มีผู้หนึ่งรับอาสาแล้วเอาเข็มมาแหย่จมูกเต่ายนต์ เต่ายนต์ก็ออกไข่มา พระยาจึงแต่งตั้งให้เป็นขุนพล ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้จะได้เป็นมนตรีใหญ่ จะได้โคกระบือ ข้างมา ลูกเมียจะได้
23. ฤกษ์ธนิษฐ ได้แก่พระยาอุเทน จากถิ่นที่อยู่ไปอยู่ถิ่นอื่นจนได้เป็นท้าวพระยา ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้มักจะไปได้ดีในต่างแดน จะเป็นราชทูต เดินทางๆบกดี ทางน้ำไม่ดี กำเนิดใต้ไปได้ดีเหนือ กำเนิดเหนือไปได้ดีใต้ จะได้ลาภอันใหญ่
24. ฤกษ์สตพภิสช มีนางราชกัลยาองค์หนึ่งเป็นราชธิดากษัตริย์เมืองอินทรปัตถ์ เมื่อถึงกาลอันสมควรแก่การสยุมพรแล้ว ราชบิดาจึงประกาศเชิญชวนบรรดาราชา ราชบุตร มนตรี กวี ปราชญ์ ชาติเศรษฐี ประชาราษฎร มาประชุมที่หน้าพลับพลา แล้วให้ราชธิดาเสี่ยงมาลัยเลือกคู่ ถ้าชื่นชอบชายใดให้นำมาลัยไปสวมพระราชบิดาจะอภิเษกให้ ราชธิดาเห็น อะโสภาผู้เฒ่าทำให้เกิดความพึงพอใจด้วยบุพเพสันนิวาส จึงมอบมาลัยนั้นแด่อะโสภา หมู่ชนจึงนินทากล่าวเย้ยหยันว่า นางประหลาดไปรักผัวแก่ แต่พระราชบิดาก็อภิเษกให้ตามที่ได้ตรัสไว้ ครั้นนานมาพระราชบิดาก็ได้สวรรคต สมบัติการครองเมืองก็ตกแก่อะโสภาผู้เฒ่านั้น ผู้ใดกำเนิดมาในฤกษ์นี้ ท่านจะขอให้ลูกสาว จะได้ดีเพราะสตรี มีโคกระบือ ช้างม้า จะได้แผ่นดิน ประกอบด้วยโชคลาภอันเที่ยงแท้
25. ฤกษ์ปุพพภัทท ได้แก่นาย บุญทฤก ผู้เป็นพราน แต่ด้วยมีวาจาสัตย์แม้ปรารถนาจะสังหารสัตย์ใดจะตั้งใจเอาแต่ที่ปรารถนาไว้เท่านั้น ตัวอื่นมิได้เอา ครั้นหนึ่งได้ขึ้นไปบนยอดเขารู้สึกกระหายน้ำมากแล้วนอนสลบอยู่ เทพยาดาจึงให้พระพายไปบอกน้ำให้ขึ้นมา พระคงคาทราบความก็ไหนขึ้นไปยังยอดเขา นายพรานจึงได้อาบกินด้วยอำนาจในความสัตย์ที่กระทำมา ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ จะเป็นเพชฌฆาต เป็นพราน เป็นชาวประมง ประกอบด้วยทรัพย์ธัญญาหาร มีศักดิ์เป็นพระยามีความสุข
26. ฤกษ์อุตตรภัทท ได้แก่ ทุรจิต ผู้เข็ญใจอาศัยอยู่ในกรุงหัสตินปุระ เที่ยวหาบฟืนขาย แบ่งไว้กินบ้างเก็บสะสมบ้าง อยู่มาเจ้าเมืองหัสตินสวรรคต แล้วหาราชวงศ์ที่จะสืบราชสมบัติไม่ได้ เหล่าเสนาอำมาตย์จึงทำพิธีเสี่ยงราชรถ เทพยดาจึงดลให้ราชรถไปหยุดยังทุรจิต เหล่าเสนาอำมาตย์จึงเชิญมาครองราชสมบัติ ทุรจิตครองราชสมบัติไปตามราชธรรม ครั้นสวรรคตแล้ว ก็บังเกิดในสวรรค์เทวโลก ผู้ใดกำเนิดมาในฤกษ์นี้ ถ้ามีพระเคราะห์มหาอุจ แม้เป็นลูกไพร่ก็จะได้เป็นใหญ่ จะได้เป็นขุนนาง ท้าวพระยา ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นนางพระยา มีโคกระบือ ช้างม้า ข้าคนชายหญิง เงินทองมากมาย
27. ฤกษ์เรวดี ได้แก่ฤาษีตนหนึ่ง ชื่อ เทวาจารย์สำเร็จญาณไปสู่สวรรค์ และลงมายังเมืองมนุษย์เพียงลัดนิ้วมือเดียว ผู้ใดกำเนิดในฤกษ์นี้ และมีมหาอุจ 8 ตัวจะถึงซึ่งนิพพานในชาตินี้ ถ้าเป็นอุจจาวิลาสจะเป็นฤาษีมีฤทธิ์สามารถเดินทางโดยรอบจักรวาลเพียงลัดนิ้วมือเดียว ถ้าบวชในศาสนาจะได้เป็นสังฆปรินายก รู้จบพระไตรปิฎก สรรพทุกประการ ถ้ามีมหาอุจ 2 ตัว ถ้าเป็นนักบวชเรียนจะอุดม ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นมารดาพระสงฆ์ โดยถอยลงมาจะได้เป็นแม่มดหมอ แต่มักจะเกิดทุกข์ยาก
|